ชีวิต ของ ชิลเพริคที่ 1

ทันทีหลังการสิ้นพระชนม์ของพระราชบิดาในค.ศ.561 พระองค์พยายามที่จะยึดการครอบครองอาณาจักรทั้งหมด ชิงเอาสมบัติที่รวบรวมได้ในพระราชธานีแบร์นีและเข้าสู่ปารีส ทว่าพี่น้องชายของพระองค์บังคับให้พระองค์แบ่งอาณาจักรกับพวกตน และซอยส์ซงต์กับอาเมียงส์, อาร์ราส, ค็อมเบร, ธีรวนน์, ทัวร์เน และบูโลญตกเป็นส่วนแบ่งของชิลเปริค, พระเชษฐาของพระองค์ ชาริแบต์ ได้รับปารีส, พระเชษฐาคนรอง กุนแทรม ได้รับเบอร์กันดีที่มีเมืองหลวงอยู่ที่ออร์ลียง และซิเกอแบต์ได้รับออสเตรเชีย เมื่อชาริแบต์สิ้นพระชนม์ในค.ศ.567 ทรัพย์สินที่ดินของพระองค์ได้รับการเพิ่มพูนเมื่อพี่น้องชายแบ่งอาณาจักรของชาริแบต์กันและตกลงแบ่งปารีสกัน

ทว่าหลังการขึ้นครองตำแหน่งไม่นาน พระองค์ทำสงครามกับซิเกอแบต์ ที่จะอยู่ในสถานะเกลียดชังกันไปอีกนาน ซิเกอแบต์ปราบพระองค์และเดินทัพสู่ซอยส์ซงส์ ที่ๆพระองค์ปราบและจำคุกพระโอรสคนโตของชิลเปริค ธูเดอแบต์ สงครามระเบิดขึ้นในค.ศ.567 ตอนที่ชาริแบต์สิ้นพระชนม์ ชิลเปริครุกรานดินแดนใหม่ของซิเกอแบต์ทันที แต่ซิเกอแบต์ปราบพระองค์ได้ ต่อมาชิลเปริคจับมือกับกุนแทรมต่อสู้กับซิเกอแบต์ (ค.ศ.573) แต่กุนแทรมเปลี่ยนข้างและชิลเปริคแพ้สงครามอีกครั้ง

เมื่อซิเกอแบต์อภิเษกสมรสกับบรุนฮิลด้า พระธิดาของกษัตริย์วิซิโกธในสเปน (อาธานากิลด์) ชิลเปริคก็หวังจะมีการอภิเษกสมรสที่ดีเยี่ยมเช่นกัน พระองค์ได้ทอดทิ้งพระชายาคนแรก ออโดเวร่า และรับเอาสาวใช้ชื่อเฟรเดกุนด์มาเป็นอนุภรรยา ต่อมาพระองค์ไม่สนใจเฟรเดกุนด์และอภิเษกสมรสกับพระขนิษฐาของบรุนฮิลด้า กาลสวินธ่า แต่ไม่นานพระองค์ก็เบื่อหน่ายคู่ชีวิตคนใหม่ และเช้าวันหนึ่งกาลสวินธ่าถูกพบว่าถูกบีบคอจนสิ้นพระชนม์บนเตียงนอนของพระนาง หลังจากนั้นไม่กี่วันต่อมาชิลเปริคอภิเษกสมรสกับเฟรเดกุนด์

การฆาตกรรมครั้งนี้เป็นต้นเหตุของสงครามที่ยาวนานและนองเลือด ที่เต็มไปด้วยการสงบศึกชั่วคราว ระหว่างชิลเปริคกับซิเกอแบต์ ในค.ศ.575 ซิเกอแบต์ถูกลอบปลงพระชนม์โดยเฟรเดกุนด์ ต่อมาชิลเปริคทำสงครามกับผู้พิทักษ์ของพระชายาและพระโอรสของซิเกอแบต์ กุนแทรม ชิลเปริคกอบกู้ตำแหน่งของพระองค์กลับมาได้ ได้ออสเตรเชีย ทัวส์กับปัวติเยส์ และบางที่ในอากีแตนมา และเพาะบ่มความบาดหมางในอาณาจักรฝั่งตะวันออกในช่วงที่ชิลเดอแบต์ที่ 2 ยังเป็นผู้เยาว์

ในค.ศ.578 ชิลเปริคส่งกองทัพไปต่อสู้กับผู้ปกครองเบรตัน วาโรชที่ 2 แห่งโบร-เวเน็ด แนวชายฝั่งแม่น้ำวิแลน กองทัพแฟรงก์ประกอบด้วยกองที่มาจากปัวตู, ตูแรน, อ็องฌู, เมน และบายูซ์ ชาวบายูกาสเซนส์ (คนที่มาจากบายูซ์) เป็นชาวแซ็กซันและพวกเขาถูกชาวเบรตันเพ่งเล็งเป็นพิเศษ กองทัพต่อสู้กันเป็นเวลาสามวันก่อนวาโรชยอมจำนวน แสดงความเคารพต่อวานส์ ส่งลูกชายของตนไปเป็นตัวประกัน และตกลงยอมจ่ายเครื่องราชบรรณาการรายปี ต่อมาในภายหลังเขาผิดคำสัตย์ แต่อำนาจของชิลเปริคเหนือชาวเบรตันยังอยู่รอดปลอดภัย

รัชสมัยของชิลเปริคในนูสเตรียมีการนำการลงโทษด้วยการควักลูกตาแบบไบเซนไทน์มาใช้ พระองค์ยังเป็นคนที่หลงใหลในวัฒนธรรม ทรงเป็นนักดนตรีที่มีพรสวรรค์พอสมควร และทรงเขียนโคลงกลอน พระองค์พยายามปฏิรูปอักษรแฟรงก์ และทรงทำงานเพื่อลดผลกระทบในทางลบของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสตรีของชาวซาเลี่ยน

ในเดือนกันยายน ค.ศ.584 ขณะกำลังกลับจากการออกเดินทางไปล่าสัตว์ที่วิลล่าหลวงแห่งเชลส์ ชิลเปริคถูกแทงจนสิ้นพระชนม์โดยนักลอบสังหารลึกลับ